A-level (AS, A2) เพื่อเรียนต่อมหาลัยที่ประเทศอังกฤษ

A-level เป็นข้อสอบวัดระดับความรู้ของประเทศอังกฤษ ที่คล้ายๆกับการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัยของเมืองไทยสมัยก่อนที่ต้องเลือกวิชาที่ต้องสอบ

แต่จะแตกต่างกันตรงที่ A-level จะแบ่งการสอบออกเป็น 2 ระดับ โดยแต่ละมหาลัยที่ประเทศอังกฤษจะมี requirement ไม่เหมือนกันว่าต้องสอบ A level วิชาไหนบ้าง ต้องได้เกรดเท่าไหร่บ้าง โดยที่บางมหาลัยอาจจะไม่สนใจเกรด IGCSE เลยแค่สอบ A-level ผ่านก็โอเคแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมีมาตรฐานคล้ายๆกัน คือ ต้องสอบ IGCSE ให้ผ่านครบ 5 วิชา โดยที่ 2 วิชาใน 5 วิชานี้ต้องมี Maths และ English อยู่ด้วย

 

การสอบ A-level ให้ได้ 1 ตัว จะต้องสอบให้ผ่านทั้ง 2 ระดับ ของวิชานั้นๆ คือ

1. ระดับ AS – นักเรียนทุกคนจะต้องสอบ AS ก่อนแล้วจึงไปสอบระดับ A2 ได้ เหมือนเป็นระดับพื้นฐานก่อนไปเรียนตัวที่มีความยากมากขึ้น (โดยทั่วไปทางโรงเรียนจะให้นักเรียนเลือกเรียน 4 ตัวก่อน แล้วตอนเรียน A2 จะลดให้เหลือ 3 ตัวที่นักเรียนจำเป็นต้องใช้ในการเข้ามหาลัย แต่ถ้านักเรียนคนไหนเรียนมากกว่า 4 ตัวไหวก็สามารถลงเรียนได้)

2. ระดับ A2 – หลังสอบผ่านในระดับ A2 แล้วจะถึงว่าได้สอบผ่านในวิชานั้นๆในระดับ A-level โดยสมบูรณ์ คะแนนที่ได้ออกมาตอน AS นำมาเฉลี่ยกับ A2 แล้วคิดออกมาเป็นเกรด (A* – E = ผ่าน) UCAS (http://www.ucas.com) เป็นเว็บที่มีไว้ให้นักเรียนที่สอบ AS จบแล้วมากรอกข้อมูลส่วนตัวและเกรด เพื่อเลือกมหาลัยที่ต้องการจะเข้าเรียน (เลือกได้มากที่สุด 5 ที่)โดยน้องๆจะสามารถเลือกมหาลัยได้ตามคะแนนที่สอบได้ โดยสามารถเลือกมหาลัยได้สูงกว่าคะแนนที่เราได้เล็กน้อยเพื่อให้มีโอกาสได้เข้าเรียนสูงพอสมควร (เช่น AAA อาจจะสามารถเลือกมหาลัยที่ require A*AA ได้) และเว็บนี้ยังเป็นแหล่งรวมข้อมูลของมหาลัยต่างๆที่น้องๆสามารถเข้าไปกรองเอาเฉพาะมหาลัยที่เราต้องการได้ง่ายๆ และสามารถนำมาศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมต่อได้ด้วยตนเอง 

 

Time line ของการสมัครเรียนต่อมหาลัยที่อังกฤษ IGCSE >>>> AS >>>> UCAS >>>> A2 >>>> UK University   หลังสอบ AS จบ และได้ผลมาแล้วให้เข้าเว็บ UCAS

 

1. กรอก Personal infomation 

2. กรอก Grades ตั้งแต่ระดับ IGCSE 

3. เขียน Personal statement ใน UCAS 

4. เลือกมหาลัยที่ต้องการเข้าศึกษา (ต้องเลือกตามวิชาที่เราได้สอบไป)

5. รอมหาลัยตอบกลับมา

6. หลังจากมหาลัยตอบกลับมาหมดแล้ว 5 ที่ เราจะได้เลือกเพียง 2 ที่เท่านั้น    

– Firm choice อันที่อยากได้มากที่สุด (เกรดสูงหน่อย)

– Insurance choice อันที่อยากได้รองลงมา (ควรจะเกรดต่ำกว่าอันดับ 1)

7. สอบ A2 ให้จบ ถ้าได้เกรด เท่ากับตอนสอบ AS เราก็ไม่ต้องทำอะไรสามารถเข้ามหาลัยได้เลย แต่ถ้าได้มากกว่า เราสามารถ ADJUSTMENT เพื่อเลือกมหาลัยที่ดีกว่าเดิมได้ และถ้าน้อยกว่าเดิมเราก็จำเป็นต้องมา CLEARING เพื่อเลือก มหาลัยที่มี requirement น้อยกว่าอันที่เคยเลือกไว้